Monday, 27 March 2023

ธุรกิจอสังหาฯ ใน “เมตาเวิร์ส” เฟื่องฟู นักลงทุนแห่ซื้อที่ดินโลกเสมือนจริง

 

รายงานศึกษาค้นคว้าปัจจุบันเผยว่า ตลอดตอน 12 เดือนที่ผ่านมาบรรดานักลงทุนทั่วทั้งโลกแห่กันเข้าซื้อจองที่ดินในโลกเปรียบเสมือนจริงหรือ “เมตาเวิร์ส” (Metaverse) กันจำนวนไม่ใช่น้อย คิดเป็นค่าเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แล้ว

ถึงแม้ยังมีความไม่แน่นอนสูงแล้วก็ต้องใช้เวลาอีกนานในการพัฒนาเมตาเวิร์ส เพื่อให้เป็นหลักที่ออนไลน์เดียวซึ่งผู้คนสามารถใช้ชีวิตแบบอวตารบนโลกเปรียบเสมือน พบปะพบปะ ทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันได้ แต่นักลงทุนพวกนี้ก็ยินดีทุ่มเงินก้อนโตเพื่อเก็งกำไรล่วงหน้า

แอนจี ทอมป์สัน ศิลปินจากเมืองไบรตันของอังกฤษ กลายเป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์ส หลังซื้อที่ดินแปลงหนึ่งเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี 2020 ในราคา 1,500 ปอนด์ (ราว 63,500 บาท) เพื่อสร้างแกเลอรีสองแห่งจัดแสดงงานศิลปะของตนเอง รวมทั้งสนับสนุนผลงานของเพื่อนฝูงศิลปินคนอื่นๆด้วย

ที่ดินของแอนจีอยู่ในโลกเปรียบเสมือน “ว็อกเซลเวิลด์” (Voxel World) หนึ่งในแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สที่คุณสามารถขายผลงานศิลป์ดิจิทัลด้วยเงินคริปโตเคอเรนซีได้ แกเลอรีขนาดเท่าบ้านหลังเล็กของเธอสร้างเป็นอาคารสามชั้น แล้วก็มีดาดฟ้าให้แขกขึ้นไปชมวิวทิวภาพ

“เพียงกดปุ่ม F คุณก็จะสามารถบินขึ้นไปดูพื้นที่โดยรอบ ยังมีที่ดินอีกหลายแปลงในแถบนั้น เรียงติดกันเป็นแถวยาวไปกระทั่งถึงเส้นขอบฟ้า” แอนจีกล่าว

โลกเมตาเวิร์ส

เว้นเสียแต่ “เมตา” (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กแล้วก็อินสตาแกรมแล้ว เดี๋ยวนี้มีแพลตฟอร์ม เมตาเวิร์ส ของอีกหลายบริษัทซึ่งเปิดขายที่ดินในโลกเปรียบเสมือนจริงอยู่

โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Dapp Radar รายงานว่า ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีนักลงทุนซื้อที่ดินในเมตาเวิร์สเหล่านี้แล้วทั้งนั้น 1,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในจำนวนนี้ราว 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ถูกนำไปซื้อที่ดิน 33 แปลงในว็อกเซลเวิลด์

ข้อมูลดังที่กล่าวถึงมาแล้วถูกเปิดเผยเนื่องด้วยมีการใช้เงินคริปโตฯ สกุลอีคุณเรียม (Ethereum) สำหรับเพื่อการซื้อขายที่ดินเปรียบเสมือนจริง ทำให้มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้แล้วก็เปิดเผยสู่สาธารณะผ่านทางบล็อกเชน

โลกเมตาเวิร์สยอดนิยมจากนักลงทุนอีกแห่งหนึ่งก็เป็น “ดีเซนทราแลนด์” (Decentraland) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2020 ที่ดินเปรียบเสมือนจริงแห่งนี้ถูกบอกขายในสนนราคาตั้งแต่หลายพันไปจนถึงหลายล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ทำให้มีบริษัทดังอย่างซัมซุง (Sumsung) ยูพีเอส (UPS) แล้วก็สำนักประมูลซอธบีส์ (Sotheby’s) สนใจเข้าซื้อเพื่อสร้างร้านค้าแล้วก็ศูนย์บริการลูกค้าในโลกเปรียบเสมือนจริงดังที่กล่าวถึงมาแล้ว

สินค้าแฟชั่นแบรนด์หรู “ฟิลิปป์ ไพลน์” (Philipp Plein) ได้เข้าจับจองที่ดินขนาด 4 สนามฟุตบอลในดีเซนทราแลนด์ด้วย เพื่อจัดแจงพัฒนาเป็นร้านค้าแล้วก็แกเลอรีเปรียบเสมือนจริงในอนาคต

ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์นี้กล่าวว่า แม่ของเขาไม่เห็นพ้องเป็นอย่างมากที่เขาทุ่มเงินในการนี้ไปถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา “แม่ผมโทรมาด่าว่า แกทำอะไรของเอ็ง ? บ้าไปแล้วเหรอ ? ทำไมใช้เงินเยอะขนาดนี้…นี่มันอะไรกัน ?”

จริงๆแล้ว “ฟิลิปป์ ไพลน์” ขายสินค้าทางออนไลน์ซึ่งสามารถซื้อได้ด้วยเงินคริปโตฯ ถึง 24 สกุล มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แล้วก็เมื่อต้นปี 2022 เขายังเปิดร้านใหญ่บนถนน Old Bond Street ของกรุงลอนดอน ซึ่งขายทั้งเสื้อผ้าแล้วก็สินค้าเอ็นเอฟที (Non-Fungible Tokens – NFTs) ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายด้วยเงินสด หรือเลือกจ่ายด้วยเหรียญคริปโตฯ อย่างบิตคอยน์หรืออีเธอเรียมก็ได้

“ผมกล้าเปิดร้านนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเมตาเวิร์สให้เพิ่มมากขึ้น ผมกล้าทุ่มเงินซื้อที่ดินในโลกเปรียบเสมือนจริง เนื่องจากแบรนด์ของผมนั้นอยู่มานานถึง 24 ปีแล้ว ผมคิดว่าจะทำยังไง หากในอนาคตพวกเราต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด” ฟิลิปป์ ไพลน์ กล่าว

แพลตฟอร์มเมตาเวิร์ส

แต่ Dapp Radar รายงานด้วยว่า การที่เงินคริปโตฯ มีมูลค่าลดฮวบลงอย่างถล่มทลายในปีนี้

ทำให้ค่าเดี๋ยวนี้ของอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์สตกต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยเฉียดเข้าใกล้ระดับค่อนข้างต่ำสุดในรอบหนึ่งปีแล้ว

ด้าน “แซนด์บ็อกซ์” (Sandbox) แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สอีกแห่งหนึ่ง ก็มีสินค้าแล้วก็ธุรกิจการค้าเจ้าดังอย่างอาดิดาส (Adidas),อาตาริ (Atari), กุชชี (Gucci), ยูบิซอฟต์ (Ubisoft), ไบแนนซ์ (Binance) และวอร์เนอร์ มิวสิก (Warner Music) พากันเข้าจับจองเป็นเจ้าของที่ดินเปรียบเสมือนจริงด้วยเหมือนกัน

ในกรณีของกุชชีนั้น มีการลงทุนสร้างร้านในโลกเกมออนไลน์ Roblox มาก่อนแล้ว ทั้งยังลงทุนในแบบเดียวกันที่แพลตฟอร์มเกมอื่นๆอย่าง Minecraft แล้วก็ Fortnite อีกด้วย เนื่องด้วยโลกเปรียบเสมือนจริงของเกมพวกนี้มีคุณสมบัติความเป็นเมตาเวิร์สอยู่อย่างสมบูรณ์เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการมีชุมชนคนเล่นเกมขนาดใหญ่ ที่คนไม่ใช่น้อยพร้อมเข้ามาเล่นแล้วก็ฝังตัวอยู่ในเกมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ทั้งยังมีสกุลเงินของตนเองแล้วก็ได้โอกาสทำเงินหรือใช้เงินได้ในตัวเองอยู่แล้ว

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา “กุชชีทาวน์” (Gucci Town) ซึ่งเป็นร้านในโลกเปรียบเสมือนจริงของเกมออนไลน์ มีแขกถึง 36 ล้านคน โดยลูกค้าสามารถใช้เงินจริงซื้อสินค้าพวกเสื้อผ้าเครื่องประดับให้กับอวตารของตนเองได้ ส่วนร้านในเกมออนไลน์ของไนกี (Nike) มีลูกค้าเข้ามาซื้อเสื้อยืดแล้วก็รองเท้าแบบเปรียบเสมือนจริงไปถึง 25 ล้านคน ในตอน 11 เดือนที่ผ่านมา

ดูราวกับว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นจะเป็นธุรกิจที่สนใจกับโอกาสใหม่ๆที่มากับเมตาเวิร์สมากที่สุด ทั้งยังเป็นกรุ๊ปที่กล้ารับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนด้านเทคโนโลยีมากที่สุดด้วยด้วยเหมือนกัน

ธุรกิจการค้าที่ขายสินค้าแฟชั่นสำหรับโลกออนไลน์เพียงอย่างเดียว เช่น The Fabricant มุ่งผลิตสินค้าพวกเสื้อผ้าแล้วก็เครื่องประดับสำหรับอวตารสวมใส่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนำออกจำหน่ายในดีเซนทราแลนด์ แซนด์บ็อกซ์ แล้วก็โลกเมตาเวิร์สที่ใช้เงินคริปโตฯ อื่นๆ

แอมเบอร์ แจ สลูเทน หัวหน้าดีไซเนอร์แล้วก็ผู้ร่วมจัดตั้งธุรกิจการค้า The Fabricant กล่าวว่า “ขณะที่พวกเราเปิดบริษัทใหม่ๆผู้คนเห็นว่าพวกเราบ้า พวกเขาคิดว่าใครกันแน่กันที่จะซื้อสิ่งของเปรียบเสมือนจริงพวกนี้ แต่พวกเราเชื่อถือเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตผู้คนจะใส่สินค้าดิจิทัลของพวกเรา”

เดี๋ยวนี้ The Fabricant พึ่งขายชุดเดรสดิจิทัลไปได้เพียงชุดเดียว โดยคิดเป็นค่า 19,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ราว 715,000 บาท) ซึ่งเป็นการขายในรูปแบบของผลงานศิลปะดิจิทัลหรือ NFT แล้วก็ผู้บริโภคผลงานมิได้นำไปให้อวตารของตนเองใส่แต่อย่างใด

แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ มีคนที่เชื่อถือในแนวคิดเมตาเวิร์สแล้วก็โอกาสทางธุรกิจแห่งอนาคตในโลกเปรียบเสมือนจริงอยู่ไม่น้อย ปัจจุบัน The Fabricant สามารถระดมทุนจากผู้พึงพอใจทั่วทั้งโลกได้ถึง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เลยทีเดียว

แต่ว่าวันที่เมตาเวิร์สจะกลายเป็นโลกที่ผู้คนใช้ดำรงชีพอยู่เป็นหลักนั้น ไม่มีใครรู้ว่าจะมาถึงเมื่อใดแน่ เวลานี้แพลตฟอร์มโลกเปรียบเสมือนจริงที่ใช้เงินคริปโตฯ ยังมีแขกลูกค้าประจำแล้วก็ผู้ที่ลงหลักปักฐานสร้างธุรกิจเพียงเรี่ยรายไม่กี่พันราย นอกจากขณะที่มีการจัดงานมหกรรมทางออนไลน์ครั้งใหญ่ๆเท่านั้น จึงจะมีแขกหลักล้าน

แม้แต่แพลตฟอร์มของ “เมตา” เอง ที่ทุ่มทุนพัฒนาไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ก็ยังมีข่าวรั่วไหลออกมาจากภายในบริษัทว่า ผู้คนไม่ค่อยสนใจเข้าไปเยี่ยมโลกเปรียบเสมือนจริงแห่งนี้ และมักอยู่ไม่นานในแต่ละครั้ง

แต่ สลูเทนยังเชื่อถือว่า “เมื่อมีการพัฒนาไปมากขึ้น ผู้คนจะเริ่มเข้ามาแล้วก็จะกำเนิดตลาดขนาดใหญ่อย่างแน่แท้ ลองนึกถึงคนหนุ่มคนสาวแบบใหม่ที่เล่นเกมออนไลน์อยู่แล้ว สำหรับพวกเขาไม่มีการแบ่งแยกระหว่างโลกจริงแล้วก็โลกเปรียบเสมือน แต่พวกเราต้องสร้างมันขึ้นมาก่อน”

Metaverse